วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ในหลวงฯในสายตาของชาวต่างชาติ

ไหน จะเขมร พม่า น้ำท่วม พายุ คลิป เสธหนั่น การประท้วง.. ที่สำคัญการ
โพสต์ข้อความหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามหน้าwall และในหลายเว็ปไซด์....พาทั้งผม
และคนไทยเครียดกันเป็นแถบๆ ถ้าไม่ให้ตกเทรนคงต้องคุยกันแต่เรื่องพวกนี้ แต่
วันนี้มีเรื่องเล่าให้หายเครียดกับบรรยากาศบ้านเมือง แต่คนทำให้หายเครียดกลับ
ไม่ใช่คนไทย กลายเป็นคนต่างชาติไปซะนี่...แปลก ซึ้ง แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิด
ขึ้นกับตัวเอง...ถ้ามีฝีมือในการถ่ายทอดพอคงได้ เห็นน้ำตาซึมออกมา เพราะความ
ปีติอีกครั้ง...ตามมาครับ

เมื่อวันก่อน พอดีมีโอกาสต้อนรับนักธุรกิจชาวอังกฤษหนึ่งท่าน ที่มาตาม
งานที่เขาสั่งผลิตเอาไว้..ตามภาษาคนทำธุรกิจเลยต้องรับขับสู้ให้ดี ที่สุดเพื่อ
โชว์ความเป็นคนไทยที่มีน้ำใจ....เรื่องมันเกิดขึ้นบนโต๊ะอาหาร มื้อค่ำครับ....
เราก็ทานกันไปตามปรกติมาอีตอนท้ายๆการสนทนาครับ...จำได้ว่า เราคุยกันเรื่องการ
ลงทุนนี่แหละครับ...อยู่ดีๆฝรั่งตาน้ำข้าวก็พูดขึ้นมา ว่า..."คุณรู้ไหมทำไมคน
ต่างชาติหลายๆประเทศทำไมตัดสินใจมาลงทุนที่เมืองไทย "..เราก็ตอบไปตามสไตล์คน
อยากรู้ว่า ...ไม่รู้ เข้าทางฝรั่งเลยครับ เขาพูดขึ้นมาว่า "ส่วนมากแล้วจะ
ประเมินกันว่าแรงงานประเภทงานฝีมือคนไทยมีศักยภาพสูงสุดในแถบ เอเซีย สูงกว่า
ญี่ปุ่นเสียอีก ตอนนี้จะพอมีใช้ได้ก็เวียดนาม แต่ไม่กระตือรือล้นเท่าที่ควรจึง
ยังห่าง"....แต่นั้นไม่ใช่เหตุผลหลักนะครับ เพราะสิ่งที่นักธุรกิจคนนี้พูดต่ออก
มาคือ....."แต่ปัจจัยหลักที่พวกเขา ตัดสินใจมาลงทุนที่เมืองไทยเป็นเพราะ "
ในหลวงฯ.."..เริ่มอึ้งไปชั่วขณะเพราะงง..จึงถามกลับไปว่าทำไมจึงเป็นเพราะ
ในหลวงฯ...มาฟังคำตอบชัดๆเลยครับ..

"ก็เพราะประเทศคุณมี king of king...(แปลไม่ถูกเพราะหัวใจมันพองโตขึ้น
มาในทันใด)...พวกเราเป็นที่รู้กัน มาตลอดว่าประเทศไทย ไม่ว่าจะมีเรื่องเลวร้าย
แค่ไหน มันจะผ่านไปได้ทุกครั้ง แม้นกระทั้งความรุนแรงหรือความแตกแยกทางความคิด
ใดๆ หากเกิดขึ้น...เพียงในหลวงฯของคุณบอกให้ จบทุกอย่างจะจบ ด้วยความสงบ
สันติ"...แล้วผมก็ถามกลับไปว่าตอนนี้เรายังมีปัญหาอยู่เลย..เขา ตอบกลับทันทีว่า
"เรื่องการจราจลเผาเมืองที่ผ่านมาเขาตามข่าวมาตลอดด้วยความเป็นห่วง แต่ที่แปลก
ใจก็คือครั้งนี้ในหลวงไม่ออกมา แต่นั้นทำให้เขารู้ว่า..ความรุนแรงที่เกิดขึ้น
ครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องความ"แตกแยก"แต่เป็นเรื่อง"การเมือง" ในหลวงฯจึงไม่เข้ามา
ยุ่งเกี่ยว"......

...จบตอนนี้ผมอึ้ง ทึ่ง สมองสั่งการให้เห็นแสงสว่างขึ้นมาทันทีว่า..
จริงด้วยเราหลงทางหรือเปล่าที่ คิดว่าเราแตกความสามัคคี จริงๆแล้วเป็นเรื่องการ
เมือง ของคนเลวๆกลุ่มหนึ่งเท่านั้น....คิดได้เท่านั้นทุกอย่างก็หยุดลง เพราะคำ
ว่า"ในหลวง"ที่มีคุณูปการมากมายที่มีต่อคนไทยจน คนไทยอย่างเราเองคาดไม่ถึง นึก
ไม่ถึงว่าคนต่างชาติมาลงทุนบ้านเราเพราะพระบารมีของพระองค์...ผมกับคุณ พ่อเริ่ม
ออกอาการซึมเพราะมันรู้สึกตื้นตันอย่างบอกไม่ถูกเวลานั้น..... ทุกอย่างแห่งความ
ซาบซึ้งน่าจะจบลงตรงนั้นแต่แล้ว..น้ำตามันซึมออกมาเองอีก ครั้ง...เมื่อตอนคนมา
เก็บเงินค่าอาหาร...

ในตอนที่เอาเงินส่งให้พนักงาน...ฝรั่งคนเดิมพูดขึ้นมาอีกว่า....

"คน ไทยนี่โชคดีจริงๆนะ จะอยู่ที่ไหน จะทำอะไร มีในหลวงฯคอยติดตามเฝ้า
ดูอยู่อย่างใกล้ชิดตลอดเวลา"....ผมกับพ่อหันไปมอง คราวนี้พ่อผมถามเองเลยว่า..
คุณรู้ได้อย่างไร เขาตอบกลับทันทีเลยว่า...."ก็ผมเห็นธนบัตรไทยมีรูปในหลวงฯของ
พวกคุณอยู่ ทุกๆใบแม้นกระทั่งในเหรียญที่มีค่าน้อยที่สุดถึงมีค่ามากที่สุดใน
ธนบัตร เห็นเป็นอย่างนี้มาหลายสิบปีแล้ว ดังนั้นเวลาคนไทยไปไหน ในหลวงฯจะอยู่
กับคนไทยตลอดเวลา ไม่เคยห่างกัน ผมยังสงสัยเลยว่า ทำไมรัฐบาลคุณไม่พิมพ์คำ
ว่า.."เรารักในหลวง" ลงไปในธนบัตร.."..ทั้งผมทั้งพ่อน้ำตากลั้นไม่ไหวจริงๆครับ
มันซึมออกมาแบบไม่อายเลย น้ำลายมันก็กลืนไม่เข้าเวลานั้น....."เท่ห์" มากครับ
ที่เกิดเป็นคนไทย หัวใจมันพองโต จนรู้สึกว่าตายกี่ชาติต่อกี่ชาติ ขอให้ได้เกิด
เป็นคนไทยทีเถิด....

ส่งแขกเสร็จกลับบ้านกับพ่อสอง คน..ตลอดทางไม่พูดกันซักคำ ต่างคนต่าง
เงียบ ผมก็ได้แต่นั่งคิดถึงคำพูดไอ้ฝรั่งคนนี้มาตลอดทาง มันเป็นความสุขที่ได้
รับแบบคาดไม่ถึงจริงๆครับ ....พอถึงบ้านจอดรถให้พ่อลงที่หน้าบ้านเห็นแม่มายืนรอ
อยู่...พอพ่อลงรถคำแรก ที่พ่อพุดกับแม่คืด..ถามลูกมันดูซิว่า แกรรี่เค้าพูดถึง
ในหลวงว่ายังงัย.....จบครับ เป็นอันว่าตลอดทางที่กลับบ้านพ่อผมคิดถึงแต่เรื่อง
ในหลวงฯแน่นอน.....

เรื่อง ทั้งหมดที่เล่าคงอธิบายความรู้สึกที่อยากจะถ่ายทอดทั้งหมดไม่ได้
แต่อยากแบ่งปันครับ....แบ่งปันให้พวกเราเก็บเรื่องดีๆนี่ไว้ในความทรงจำ เพื่อ
แบ่งปันกันต่อจากรุ่นสู่รุ่น...ไม่น่าเชื่อนะครับว่า คนอื่นมองเห็นเราชัดเจน
กว่าตัวเราที่เป็นคนไทยซะอีก...คำว่า เป็นเรื่อง"การเมือง" ไม่ใช่เรื่องความ"
แตกแยก"....อาจเป็นคำตอบให้คนไทยกลับมาคิดทบทวนกันอีก ครั้งว่า..เราแตกแยกกัน
จริงหรือ..เพราะเรามีพระมหากษัตริย์ที่ประเสริฐที่ สุด จนคนทั้งโลกยังอิจฉาแต่
เราบางคนกลับมองไม่เห็น......

เพิ่งรู้ และสัมผัสกับคำว่า หัวใจพองโต...มันคับฟ้าคับแผ่นดิน..จริงๆนะ
ครับ..ที่สำคัญคือ..การที่รู้สึก แบบนี้ได้เป็นเพราะ..ผมเป็นคนไทย ที่มีพระมหา
กษัตริย์ที่ประเสริฐที่สุดเป็น "พ่อของแผ่นดิน"..พระองค์ฯต้องอยู่เป็นมิ่งขวัญ
ให้คนไทยทั้งแผ่นดินตลอดไป ....จริงไหมครับ..????

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More

 
Powered by Blogger